เผยเส้นทางพลังงานที่เปลี่ยนไปอย่างน่าทึ่งของ ป้าตือ สมบัษร ไอดอลโลกออนไลน์วัย 63 ปี ผู้คร่ำหวอดในวงการมายาวนาน แต่ยังคงสดใหม่และสนุกกับทุกบทบาท ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต ป้าตือเล่าถึงการปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับทุกเจน ตั้งแต่ Baby Boomer จนถึง Gen Z พร้อมทั้งยอมรับว่า จากครั้งหนึ่งที่เคยถูกมองว่า “แรง” วันนี้กลับกลายเป็นที่รักของเด็กๆ และผู้คนทุกวัย โดยเปิดใจทั้งหมดผ่านรายการ WOODY FM
วัย 63 แต่หัวใจไม่เคยแก่
ป้าตือเล่าว่า แม้อายุจริงจะ 63 ปี แต่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแก่ “ถ้าไม่มีใครมาถามเรื่องอายุ ตัวเลขนี้แทบไม่เคยเข้ามาในความคิด” เธออธิบายถึงพลังงานที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่คนรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะบุคลิกนิ่งและแว่นดำที่ทำให้ดูน่าเกรงขาม จนถูกมองว่า “อย่าไปยุ่งกับเขาเลย” แต่แท้จริงแล้วกลับไม่มีอะไรเลยในใจ จนวันนี้พลังงานกลับพลิก คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะเด็กๆ กลับเข้ามาหาอย่างอบอุ่น
พูดตรงคือธรรมชาติ แต่สังคมพร้อมยอมรับมากขึ้น
ป้าตือเผยว่าเป็นคน “คอนเนกต์” กับผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่สมัยก่อนการพูดตรง กลายเป็นสิ่งที่สังคมไม่คุ้นชิน ทำให้ถูกมองว่า Aggressive “จริงๆ แล้วเราแค่พูดความจริงและพูดเร็วตรงประเด็น แต่คนไม่เข้าใจ” เธอยกตัวอย่างทฤษฎีของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ที่ว่า “ของขม 16 ครั้ง ครั้งที่ 17 จะกลายเป็นของหวาน” หมายความว่า เมื่อโลกเปลี่ยนไป คนจำนวนมากเริ่มคุ้นชินกับการสื่อสารตรงไปตรงมา และพร้อมถกเถียงกันได้ นั่นทำให้การพูดแบบนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
ศิลปะการ Tailor-Made คุยกับทุกเจน
จากยุคที่เคยเป็น “ลำโพงเปิด” พูดกระจายโดยไม่ปรับให้เหมาะสม วันนี้ป้าตือยอมรับว่าต้องปรับการสื่อสารกับคนแต่ละรุ่น (Tailor-Made) เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความคิด
- Baby Boomer : จะไม่คุยเรื่องแก่หรือความตาย แต่เน้นพูดเรื่องความสุขรายวัน เรื่องตลก และหลีกเลี่ยงหัวข้อดราม่าหนักๆ
- Gen X : กลุ่มที่มั่นคงแล้ว คุยเรื่องประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น การท่องเที่ยว บาร์ หรือร้านอาหารที่ไม่เคยลอง เพื่อสร้างความตื่นเต้น
- Gen Y : ต้องวางตัวเป็นเพื่อน ไม่ใช่ครูหรือพี่ใหญ่ คอยซัพพอร์ตด้วย Connection และใช้กิจกรรมสนุกๆ อย่างเที่ยวกลางคืนเป็นสื่อกลาง
- Gen Z : เลือกเรียนรู้จากพวกเขา เห็นว่าเป็นครูในหลายเรื่อง ตั้งแต่โซเชียล ไลฟ์สไตล์ จนถึงการกินที่เรียบง่าย ไม่ถาม “ทำไม” แต่เข้าร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ
พลังงานของแก๊งหิ้วหวี และการเป็น Extra ในบางเวลา
หนึ่งในกลุ่มเพื่อนรุ่นใหม่ที่ป้าตือสนิทคือ แก๊งหิ้วหวี เธอยอมรับว่าอยู่กับพวกเขาเหมือนเป็น “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” ที่สามารถคุย ลุย และทำทุกอย่างได้ แต่ยังคงเป็นเพื่อนที่กลมกลืน “วันนี้เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำตลอดเวลา บางครั้งเราเลือกเป็น Extra เพื่อสนับสนุนกลุ่ม”
ป้าตือยังบอกว่า ทุก Moment ของการอยู่กับเพื่อนต่างเจนคือบทบาทที่ต้องปรับเปลี่ยน บางครั้งต้องเป็นผู้นำ บางครั้งเป็นผู้ฟังเงียบ หรือแม้แต่เป็นตัวประกอบ แต่ทั้งหมดคือการอยู่ในที่ที่ตัวเองแฮปปี้และพอใจ
บทสรุป
จากคนที่เคยถูกมองว่า “แรง” ป้าตือ สมบัษร กลายเป็นไอดอลที่ทุกเจนรัก เพราะเธอเลือกที่จะปรับตัว เรียนรู้ และเปิดใจอยู่กับทุกวัยอย่างจริงใจ พลังงานที่ส่งออกวันนี้ไม่ใช่ความเกรงขามอีกต่อไป แต่เป็นความสุข สนุก และความเป็นธรรมชาติที่ใครๆ ก็อยากเข้าหา




